shovespin ใครที่ยังลังเลใจ วันนี้จะพาไปรู้จักกับความมันแบบนันสตอปของภาพยนตร์แอ็กชันสุดเดือดรับต้นปีกับ “The Beekeeper นรกเรียกพ่อ” ผลงานล่าสุดของซูเปอร์สตาร์ตัวพ่อ “เจสัน สเตแธม” แท็กทีมผู้กำกับพันธุ์เดือดอย่าง “เดวิด เอเยอร์” กับปฏิบัติการสุดโหดล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งนรกที่ไม่มีใครจัดการได้ นอกจากชายที่นรกยังเรียกพ่อ

วันนี้ “มงคลเมเจอร์” ขอพาทุกคนวอร์มอัพความระทึกไปกับ “7 ระดับความเดือดของ The Beekeeper” ก่อนถล่มเครือข่ายองค์กรนรกไปพร้อมกับ “เจสัน สเตแธม” แบบจัดเต็มในโรงภาพยนตร์ shovespin

1. “น้ำผึ้งหยดเดียวปลุกความแค้นถึงนรก” พล็อตล้างแค้นที่สาแก่ใจคนดู

เมื่อคนสนิทเพียงคนเดียวของ “อดัม เคลย์” (เจสัน สเตแธม) ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนหมดตัว และเลือกจบชีวิตตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับระดับมือพระกาฬ โค้ดเนม “บีคีปเปอร์” ต้องกลับมาทวงความยุติธรรม และล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชั่วให้หมดสิ้น

2. การันตีความระทึกแบบถึงลูกถึงคน

โดยผู้กำกับสายเดือดอย่าง “เดวิด เอเยอร์” ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานแบบจัดเต็มมาแล้วจาก Suicide Squad และ Fury สำหรับ The Beekeeper เขาได้ให้เอกลักษณ์ของ อดัม ไว้ว่า “บีคีปเปอร์ สามารถเล่นงานโจทก์ทุกคนได้โดยไม่ต้องลั่นไก เขาเปลี่ยนทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาวุธได้ เขาเหมือนนักมายากล ตราบใดที่บีคีปเปอร์ยังหายใจ มันคือเครื่องจักรสังหาร”

3. รวมทีมสร้างมือพระกาฬ พร้อมเสริฟความมันเต็ม 100%

The Beekeeper ถือเป็นโปรเจกต์ที่รวมทีมสร้างระดับมือพระกาฬ ไม่ว่าจะเป็น “เคิร์ต วิมเมอร์” มือเขียนบท ที่เคยฝากผลงานสร้างชื่อใน Law Abiding Citizen และ Equilibrium รวมถึง “เจเรมี มารินาส” ผู้ดูแลคิวบู๊ที่เคยฝากผลงานแอ็กชันสุดเดือดไว้ในแฟรนไชส์ John Wick, The Hunger Games, The Wolverine และ Expendables 2

4. ทวีความเดือดด้วยแอ็กชันสตาร์ตัวพ่อตลอดกาล “เจสัน สเตแธม”

“เจสัน สเตแธม” ถือเป็นนักแสดงฮอลลีวูดเบอร์ต้นๆ ที่คอหนังแอ็กชันและแฟนๆ ต่างรอคอย และต่างให้การต้อนรับในทุกเรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น The Meg, The Expendables, Fast & Furious และสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เจสันยังคงลงมือสร้างสรรค์งานในบทบาทใหม่สุดเดือด กับอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยลับ ที่ต้องมาล้างแค้นองค์กรนรกที่มีเครือข่ายระดับชาติ “อดัม เคลย์ เป็นคนมีฝีมือ เขาปกป้องคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เขาเป็นคนเลี้ยงผึ้งที่มีหน้าที่ปรับสมดุล มันสอดคล้องกับโค้ดเนมบีคีปเปอร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษของรัฐบาล ชีวิตปกติคือเหมือนคนไม่มีตัวตน แต่เมื่อมีปัญหาใหญ่ เขาจะลุกขึ้นมาจัดการให้สิ้นซาก” – เจสัน สเตแธม กล่าว

5. แท็กทีมนักแสดงระดับบล็อกบัสเตอร์ ทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่

ใน The Beekeeper นักแสดงที่มารับบทบาทเป็นคู่ต่อกรที่เจสันต้องปะทะ หรือแนวร่วมที่เจสันต้องเข้าช่วย ล้วนได้นักแสดงมากความสามารถมาไฝว้กันแบบถึงพริกถึงขิง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงดีกรีออสการ์อย่าง “เจเรมี ไอออนส์” นักแสดงมากฝีมือที่เคยฝากผลงานสุดเดือดมาแล้วจาก Justice League และ The Flash ซึ่งครั้งนี้เขารับบทเป็น “วอลเลส เวสต์ไวล์ด” ชายวัยเกษียณ อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ ร่วมด้วย “จอช ฮัทเชอร์สัน” นักแสดงที่โด่งดังจากภาพยนตร์แฟรนไชส์ The Hunger Games และในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ และเป็นบทที่ท้าทายเขามากที่สุด กับผู้ที่อยู่เบื้องหลังองค์กรนรก และปิดท้ายด้วย “เอมมี เรเวอร์ แลมป์แมน” นักแสดงหน้าใหม่มาแรงจาก The Umbrella Academy ในบทบาทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ที่ต้องสูญเสียแม่ตนเองจากแก๊งคอลเซนเตอร์

6. สร้างจากประสบการณ์ต้มตุ๋นจริงที่ทั่วโลกต้องเคยเจอ!

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดผ่านประสบการณ์จริงของนักเขียนบทอย่าง “เคิร์ต วิมเมอร์” ซึ่งครั้งหนึ่งป้าของเขาโดนหลอกเอาเลขบัญชีไป และถอนเงินออกไปทั้งหมด ป้าของวิมเมอร์ตายไปโดยไม่มีเงินเหลืออยู่เลย ซึ่งเหตุการณ์นี้ฝังใจเขาจนครั้งนี้เขาเอามาถ่ายทอดใน The Beekeeper รวมถึงนักแสดงหนุ่มอย่าง “จอช ฮัทเชอร์สัน” ผู้รับบทเป็น “เดเรก แดนฟอร์ธ” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเจอเหตุการณ์ร้ายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อญาติคนสนิทของเขาโดนต้มตุ๋น คุณทวดของเขาส่งเงินให้สิบแปดมงกุฎที่ปลอมว่าตัวเองคือหลานชื่อ คอนเนอร์ ซึ่งคือน้องชายของจอช โดยโทรมาขอเงินประกันตัว ทวดของเขาใจอ่อน เพราะไม่อยากเห็นหลานตัวเองติดคุก ซึ่งเหยื่อที่โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ขยายเครือข่ายไปทั่วโลก และยังคงเป็นประสบการณ์เลวร้ายที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องอินไปกับหนังเรื่องนี้แน่นอน

7. ปลุกอะดรีนาลีนความแค้นของคุณ แล้วระเบิดความมันไปพร้อมกันในโรงภาพยนตร์

เตรียมนับถอยหลังสู่การทวงแค้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทั้งเดือด ทั้งจัดเต็มแบบเต็ม 100 ไปกับ เจสัน สเตแธม ในภาพยนตร์แอ็กชันเดือด ที่จะมาระบายแค้นแบบถอนรากถอนโคน “The Beekeeper นรกเรียกพ่อ” เข้าฉายแล้วในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ( shovespin )