| Home |
Last modified พฤศจิกายน 14th, 2025 at 01:27 am
“หลิวเต๋อหัว” หรือ “Andy Lau” คือตัวแทนของคำว่า “ตำนานที่มีชีวิต” ในวงการบันเทิงเอเชีย เขาคือศิลปินครบเครื่องที่เป็นทั้งนักแสดง นักร้อง โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลง ผู้สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องมากว่า 40 ปี และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทั่วเอเชียจนถึงปัจจุบัน หลิวเต๋อหัวไม่ใช่เพียงชื่อในวงการ แต่คือสัญลักษณ์ของความพยายาม ความอดทน และความสำเร็จที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่ต่างจากศิลปินระดับโลกที่สร้างอิทธิพลในทุกยุคทุกสมัย
หลิวเต๋อหัว เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1961 ที่เขต Tai Po ฮ่องกง เขาเติบโตในครอบครัวธรรมดาที่มีพี่น้องหลายคน และช่วยงานพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่เขามีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นว่าความสามารถจะเปลี่ยนชีวิตได้เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หลิวเต๋อหัวสมัครเข้าเรียนในคลาสฝึกอบรมของสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง TVB (TVB Training Class) ซึ่งเป็นสถาบันที่สร้างดาราดังมากมายในยุคนั้น เขามีความโดดเด่นทั้งด้านการแสดงและบุคลิกที่อบอุ่น ทำให้ได้รับบทสมทบในละครโทรทัศน์ตั้งแต่ปีแรก
ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 หลิวเต๋อหัว เริ่มมีชื่อเสียงจากละคร The Emissary (1982) และ Return of the Condor Heroes (1983) ที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคนดูในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อเสียงจากละครส่งต่อไปยังวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นช่วงที่วงการหนังฮ่องกงกำลังรุ่งเรือง ภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) ทำให้เขากลายเป็นไอคอนของยุค 90 ในบทบาทชายหนุ่มผู้จริงใจแต่เด็ดเดี่ยว ขณะที่ผลงาน God of Gamblers II และ Infernal Affairs (2002) ยิ่งตอกย้ำความสามารถในด้านการแสดง และทำให้เขาได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
นอกจาก ภาพยนตร์ หลิวเต๋อหวยังเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เขาเปิดตัวในวงการเพลงปี 1985 และออกอัลบั้มมากกว่า 60 ชุดตลอดชีวิตการทำงาน เพลงของเขาอย่าง “Forget Love Potion”, “Love You Forever” และ “Days We Spent Together” กลายเป็นเพลงอมตะที่ยังคงเปิดอยู่ในงานคอนเสิร์ตจนถึงทุกวันนี้ เขาคว้ารางวัลใหญ่จากงาน Hong Kong Top Ten Chinese Gold Songs Awards และได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “สี่ราชาแห่งวงการเพลงฮ่องกง” (Four Heavenly Kings) ร่วมกับ Leon Lai, Jacky Cheung และ Aaron Kwok ซึ่งถือเป็นยุคทองของวงการเพลงเอเชีย
ความสำเร็จของ หลิวเต๋อหัว ไม่ได้หยุดอยู่แค่การแสดงและร้องเพลง เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงฮ่องกงไม่กี่คนที่ลงทุนเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตัวเองในชื่อ “Focus Films” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กำกับหน้าใหม่ได้สร้างผลงาน
เขายังมีบทบาทสำคัญในการโปรโมตภาพยนตร์ฮ่องกงในระดับโลก และมักกล่าวเสมอว่า “หน้าที่ของคนมีชื่อเสียง คือการช่วยให้คนอื่นมีโอกาสเหมือนเรา” ผลงานที่เขาอำนวยการสร้าง เช่น Made in Hong Kong (1997), Running Out of Time (1999) และ Firestorm (2013) ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก และบางเรื่องได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ
หลิวเต๋อหัวได้รับรางวัลมากมายตลอดอาชีพการทำงาน อาทิ
รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจาก Hong Kong Film Awards
รางวัล Golden Horse Awards ที่ไต้หวัน
รางวัล Asian Film Awards
และยังได้รับเกียรติขึ้นแสดงในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกปักกิ่งปี 2008 ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับศิลปินชาวเอเชีย ในปี 2017 เขายังได้รับรางวัล “World’s Most Popular Chinese Artist” จากสื่อระดับนานาชาติ เพื่อยกย่องบทบาทและอิทธิพลในวงการบันเทิงทั่วเอเชีย
แม้จะมีชื่อเสียงระดับตำนาน แต่หลิวเต๋อหวยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและให้ความสำคัญกับครอบครัว เขาแต่งงานกับภรรยานักแสดงชาวมาเลเซีย “Carol Chu” และมีลูกสาวหนึ่งคนที่เขารักมาก
เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “สิ่งที่ผมภาคภูมิใจที่สุดไม่ใช่รางวัล แต่คือวันที่ผมยังทำในสิ่งที่รักและมีคนที่รักผมอยู่ข้าง ๆ” นอกจากนั้น เขายังเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทกับงานอย่างมาก — เคยประสบอุบัติเหตุจากการตกม้าขณะถ่ายหนังในปี 2017 จนบาดเจ็บหนัก แต่หลังพักรักษาตัวไม่ถึงปี เขาก็กลับมาทำงานอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า “ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ ผมจะยังไม่หยุดแสดง”
ในปัจจุบัน หลิวเต๋อหวยังคงทำงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เขาเพิ่งเปิดคอนเสิร์ตรอบเอเชียในปี 2024 และเตรียมปล่อยภาพยนตร์เรื่องใหม่แนวแอ็กชันดราม่าในปี 2025 ซึ่งเจ้าตัวเป็นทั้งนักแสดงนำและโปรดิวเซอร์
ผลงานของเขายังได้รับการเผยแพร่ใน Netflix และแพลตฟอร์มระดับโลก ทำให้แฟนคลับรุ่นใหม่ได้รู้จัก “Andy Lau” ในมุมใหม่ที่ทั้งลึกและทรงพลัง
ประวัติ หลิวเต๋อหัว ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของศิลปินคนหนึ่ง แต่คือบทเรียนของชีวิตที่สอนให้รู้ว่า “ความพยายามไม่เคยหมดอายุ” จากเด็กหนุ่มธรรมดาที่กล้าฝัน สู่ตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งโลก ทุกเพลงที่เขาร้อง ทุกฉากที่เขาแสดง คือข้อความจากหัวใจที่ส่งถึงผู้คนว่า “อย่าหยุดเชื่อในตัวเอง”และเมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนโลก ไม่ว่าจะผ่านเสียงเพลงหรือสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ก็ล้วนมีจุดร่วมเดียวกัน — ความมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งใหม่ให้โลกดีขึ้น เหมือนกับเรื่อง นักประดิษฐ์ผู้เปลี่ยนโลก ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์มนุษย์ให้ก้าวไกล เช่นเดียวกับที่หลิวเต๋อหัวเปลี่ยนวงการบันเทิงเอเชียให้ยิ่งใหญ่ในระดับโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม…นักเเสดง